สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตศรีสะเกษ
Øประวัติความเป็นมาของสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตศรีสะเกษ
สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตศรีสะเกษก่อตั้งขึ้นในนามของวิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2521 ทั้งนี้โดยเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่จะขยายการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (พลศึกษา) ไปยังส่วนภูมิภาค
การริเริ่มในการจัดตั้งวิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ เริ่มขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2514 โดยนายดำเกิงสุรการ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้ประชุมราษฎร ตำบลเมืองใต้ ตำบลโพธิ์ ตำบลหนองครก เพื่อขอถอนที่ดินสาธารณประโยชน์โนนหนามแท่ง เพื่อนำมาใช้เป็นที่ตั้งสถานศึกษา ราษฎรทั้งสามตำบลไม่ขัดข้องวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 นายบุญเหลือ แฝงเวียง ศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษ ได้บันทึกเสนอนายประมวล รังสีคุต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ว่าที่ดินโนนหนามแท่ง
ที่สงวนไว้ ควรเป็นที่ตั้งวิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ ผู้ว่าราชการเห็นชอบด้วย จึงเสนอโครงการไปยังกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงศึกษาธิการ ได้ตอบจังหวัดว่าให้จังหวัดสงวนที่ดินโนนหนามแท่ง เพื่อนำมาใช้พิจารณาสร้างสถานศึกษาระดับสูงต่อไป
พ.ศ. 2518 นายพิศาล มูลศาสตร์สาทร ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นดำเนินการให้ผู้บุกรุกเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินโนนหนามแท่งออกไปจากที่ดิน (เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2504 ศาลฎีกาได้พิจารณาพิพากษาให้ที่ดินโนนหนามแท่งเป็นที่สาธารณประโยชน์ ซึ่งต่อมาได้ถอนสภาพให้เป็นที่ราชพัสดุสำหรับตั้งวิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ)
พ.ศ. 2519 นายบุญชง วีสมหมาย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ ได้ดำเนินการต่อโดยเข้าพบอธิบดีกรมพลศึกษา เพื่อติดต่อประสานงานและยืนยันหลักการที่จะให้มีการตั้งวิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษขึ้น จากนั้นได้นำเรื่องเสนอต่อนายกรี รอดคำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้ดำเนินการให้ประชาชนออกจากบริเวณที่ดินโนนหนามแท่ง ต่อมากรมพลศึกษาได้ส่งนายปรีดา รอดโพธิ์ทอง และนายสุวิทย์ วิสุทธิสิน มาสำรวจที่ดินบริเวณโนนหนามแท่ง ซึ่งทั้งสองท่านให้ความเห็นว่าที่ดินบริเวณดังกล่าว เหมาะสมที่สุดที่จะตั้งวิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ เพราะมีความสวยงาม
การคมนาคมสะดวกและมีบริเวณ กว้างขวางควรได้รับการพิจารณาสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง
พ.ศ. 2520 กรมพลศึกษาได้กำหนดแผนการตั้งวิทยาลัยพลศึกษา ในเขตการศึกษา 11 ซึ่งมีจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ
พ.ศ. 2521กรมพลศึกษาได้ส่งคณะกรรมการมาทำการสำรวจที่ตั้งวิทยาลัยอีกครั้งที่จังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์และบุรีรัมย์ คณะกรรมการคณะนี้ประกอบด้วย นายสำอาง พ่วงบุตร นายสถิต ตันเกษม และนายพิพิธพร แก้วมุกดา ซึ่งเป็นระยะเดียวกันกับที่จังหวัดศรีสะเกษได้วางแผนดำเนินงานหลายขั้นตอน กล่าวคือ
1. ผู้ว่าราชจังหวัดศรีสะเกษ ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงศึกษาธิการยืนยันให้กระทรวง จัดตั้งวิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ และต่อมาได้เชิญอธิบดีกรมพลศึกษามาตรวจราชการที่จังหวัดศรีสะเกษ
2. นายพิสิทฐ์ บัวแย้ม ผู้ช่วยศึกษาธิการ จังหวัดศรีสะเกษ ได้เสนอโครงการช่วยเหลือวิทยาลัยในระยะแรก ต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ว่าจะช่วยเหลือในเรื่องงบประมาณและบุคลากรในระยะเริ่มแรก ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้เห็นชอบด้วย จึงรายงานไปยังกรมพลศึกษาว่าพร้อมที่จะช่วยเหลือ
3. นายสุริยน เกษร อาจารย์ใหญ่พร้อมด้วยคณะครู อาจารย์ใหญ่โรงเรียนรัฐบาลเข้าพบท่านอธิบดีกรมพลศึกษาเพื่อยืนยันเจตนารมณ์ของชาวศรีสะเกษ ว่ามีความต้องการให้ตั้งวิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ
4. นายวสันต์ ธุลีจันทร์ ศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษ เสนอข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรค ทางการของจังหวัดศรีสะเกษต่อ คุณหญิงสุภาพ วิเศษสุรการ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ท่านสนับสนุนและเสนอข้อมูลดังกล่าวผ่านศึกษาธิการเขตการศึกษา 11 (นายสมาน จันทร์มนตรี) และผ่านผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (นายสุภรณ์ ประดับแก้ว) และผู้ตรวจราชการกระทรวงโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายภิญโญ สาธร) เป็นประธานที่ประชุม
5. จังหวัดศรีสะเกษได้รับโครงการเปิดวิทยาลัยพลศึกษาเข้าโครงการพัฒนาภาคตะวันออก เฉียงเหนือเป็นอันดับหนึ่งและเป็นโครงการเร่งด่วนต่อสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
6. บรรดาครู-อาจารย์พลศึกษาในจังหวัดศรีสะเกษ โดยเฉพาะ นายพิสิษฐ์ หวังเป็น, นายวิเชียร วิชัย ฯลฯ ต่างก็เป็นกำลังสนับสนุนด้านการติดต่อประสานงานมาโดยตลอด
7. ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ (นายกรี รอดคำดี) ได้เดินทางไปพบท่านอธิบดีกรมพลศึกษาและได้รับการยืนยันเป็นที่น่าพอใจ จึงเสนอขอตั้งงบประมาณจากสภาจังหวัดในระยะแรก เป็นเงิน 100,000 บาท และได้รับอนุมัติเป็นเอกฉันท์ วิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ ได้เปิดทำการสอนตั้งแต่ ปีการศึกษา 2521 เป็นต้นมา โดยกรมพลศึกษาได้แต่งตั้ง นายดุสิต เดชภิมล ผู้ช่วยผู้อำนวยการวิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดมหาสารคามปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการวิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษคนแรก
การดำเนินงานการเรียนการสอนระยะเริ่มแรก ใช้สถานที่เรียนชั่วคราวที่อาคารเรียนของ โรงเรียนการช่างศรีสะเกษ ต่อมาเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2523 วิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ จึงได้ย้ายที่ทำการจากโรงเรียนการช่างศรีสะเกษมายังที่ทำการที่ใหม่บริเวณโนนหนามแท่ง ตำบลโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมด 363 ไร่ อันเป็นที่ตั้งถาวรจนถึงปัจจุบัน
ปีการศึกษา 2532 วิทยาลัยศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับอนุมัติจากกรมพลศึกษาให้เปิดทำการสอนนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาการชั้นสูง (วิชาเอกการรักษาความปลอดภัยและพลศึกษา) และระดับปริญญาตรี หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต (โปรแกรมวิชาการฝึกและการจัดการกีฬา) ตามโครงการสมทบระหว่างวิทยาลัยครูสุรินทร์กับวิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. 2536 ได้รับอนุมัติให้เปิดสอนนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (วิชาเอกสุขศึกษา)
ปีการศึกษา 2538 วิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับอนุมัติจากกรมพลศึกษาและสภาการฝึกหัดครู ได้เปิดทำการสอนนักศึกษาระดับปริญญาตรีอีกหนึ่งสาขา คือ หลักสูตรวิทยาศาสตร์สุขภาพ (โปรแกรมวิชาการส่งเสริมสุขภาพเด็ก) ให้เป็นโครงการสมทบระหว่างวิทยาลัยครูสุรินทร์กับวิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ และในปีเดียวกันนี้กรมพลศึกษาได้มอบหมายให้วิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษจัดตั้งวิทยาลัยชุมชนห้วยน้ำคำ ในวิทยาลัยพลศึกษาเปิดทำการสอนในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.การจัดการธุรกิจว่ายน้ำ การจัดการธุรกิจเทนนิส การบริการศูนย์สุขภาพ คอมพิวเตอร์และการบริหารธุรกิจ)
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2548 วิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับโปรดเกล้าฯ จากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตั้งให้เป็นสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตศรีสะเกษ และเปิดรับสมัครนักศึกษาระดับปริญญาตรีปีการศึกษา 2548 ใน 3 คณะ 14 สาขา คือ
1. คณะศึกษาศาสตร์ หลักสูตร 5 ปี มี 4 สาขาวิชา คือ
1.1 สาขาวิชาพลศึกษา โปรแกรมวิชาพลศึกษา
1.2 สาขาวิชาพลศึกษา โปรแกรมวิชาพลศึกษาสำหรับคนพิการ
1.3 สาขาวิชาสุขศึกษา โปรแกรมวิชาสุขศึกษา
1.4 สาขาวิชานันทนาการ โปรแกรมวิชานันทนาการ
2. คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ หลักสูตร 4 ปี มี 5 สาขาวิชา คือ
2.1 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา โปรแกรมวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา
2.2 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา โปรแกรมวิชาการฝึกสอนกีฬา
2.3 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ โปรแกรมวิชาการส่งเสริมสุขภาพ
2.4 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ โปรแกรมวิชาการส่งเสริมสุขภาพเด็ก
2.5 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ โปรแกรมวิชาการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ
3. คณะศิลปศาสตร์ หลักสูตร 4 ปี มี 5 สาขาวิชา คือ
3.1 สาขาวิชานิเทศศาสตร์ โปรแกรมวิชาสื่อสารการกีฬา
3.2 สาขาวิชาธุรกิจ โปรแกรมวิชาธุรกิจสุขภาพ
3.3 สาขาวิชาธุรกิจ โปรแกรมวิชาการจัดการกีฬา
3.4 สาขาวิชานันทนาการ โปรแกรมวิชาผู้นำนันทนาการ
3.5 สาขาวิชานันทนาการ โปรแกรมวิชานันทนาการเชิงพาณิชย์และการท่องเที่ยว
Comments
- No comments found
Leave your comments